เมื่อวันที่ 11 เม.ย.68 นายคม ภัทรกุลประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักพุทธศาสนาจังหวัดพิจิตร กล่าวว่า มีพระลูกวัดที่อยู่ในสังกัดจังหวัดหนองคาย โทรศัพท์มาหาตน โดยพระดังกล่าวอ้างตัวเป็นพระผู้ใหญ่ชื่อดัง จากวัดแห่งหนึ่ง อยากให้ไปช่วยดูสำนักสงฆ์ ที่อำเภอวชิรบามี ปรากฏว่าหลังจากนั้นตนก็ไปตรวจสอบสำนักสงฆ์ดังกล่าว
นายคม กล่าวว่า ต่อมามีไลน์เข้ามายังโทรศัพท์ของตนบอกว่า เป็นคนที่แอบอ้างชื่อเป็นพระชั้นผู้ใหญ่ชื่อดัง โดยมีข้อความจากไลน์ว่า อาตมามีดำหริที่จะทำโครงการทอดผ้าป่าเพื่อสร้างแทงค์น้ำประปา ที่สปป.ลาวมีพระไทยไปอยู่หลายรูป กำลังขาดแคลนน้ำอยาก จะให้ตนซึ่งเป็นผอ.สำนักพุทธศาสนาพิจิตร ช่วยสนับสนุนตั้งกองผ้าป่าให้ซึ่ง
เมื่อผมเองเห็นไลน์ ดังกล่าวจึงเอะใจ ประสานไปที่วัดต้นสังกัดของหลวงพ่อดังกล่าว เพื่อตรวจสอบให้แน่ใจว่า เป็นเรื่องจริงหรือไม่ ปรากฏว่าทางหลวงแจ้งมาว่า หลวงพ่อไม่เคยโทรหาใครโดยตรง ส่วนใหญ่จะใช้ลูกศิษย์โทร นอกจากนี้ โทรศัพท์ที่ท่านใช้เป็นโทรศัพท์ธรรมดาไม่มีไลน์อะไรทั้งสิ้น” นายคม กล่าว
นายอาคม กล่าวอีกว่า เมื่อหลวงพ่อทราบเรื่องก็ไม่สบายใจ ให้ทนายประสานมาเพื่อให้เอาผิดกับคนที่มาแอบอ้างชื่อท่าน และให้ตนประสานตำรวจสภ.เมืองพิจิตร จากนั้นวางแผน โดยประสานไปยังไลน์ ที่ เขาแอบอ้างว่าเป็นหลวงพ่อว่า ตนเป็นผอ.สำนักพุทธศาสนาจังหวัดพิจิตร เพิ่งย้ายมา ไม่มีเครือข่ายอะไร
แต่ถ้าจะให้ช่วยภายในสำนักงานก็ได้ ซึ่งคนที่แอบอ้างชื่อพระชั้นผู้ใหญ่ บอกว่าช่วยเท่าไหร่ก็ได้ 4-5 พันก็ได้ จึงนัดหมายกัน ให้เข้ามาวันที่ 11 เม.ย. แต่ตนติดงานก็เลยนัดวันที่ 10 เม.ย. ช่วง 13.30 น. จากนั้นตนประสานตำรวจ สภ.เมืองพิจิตรให้มาจับกุม เมื่อถึงเวลานัด พระดังกล่าวมาถึง ตนจึงถวายเงิน 2,000 บาท จากนั้นเชิญตำรวจมาล็อกตัวไปที่ สภ.เมืองพิจิตร เพื่อให้ดำเนินคดีตามกฎหมาย
นายนิคม กล่าวว่า ทราบชื่อพระดังกล่าวที่แอบอ้างชื่อพระชั้นผู้ใหญ่ ภายหลังชื่อพระสุกรีสุธรรม อายุ 34 ปี ชาวอ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้ทำการสึกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดย กล่าวหา ฉ้อโกงทรัพย์ผู้อื่นโดยแสดงตนเป็นอื่น