วันที่ 5 ก.พ. 2568 เรื่องเล่าเช้านี้ ได้มีการรายงานว่า อดีตข้าราชการครูเกษียณ วัย 84 ออกมาขอความช่วยเหลือ หลังจากเมื่อวันที่ 3 ก.พ. ที่ผ่านมา มีเจ้าหน้าที่หญิงโทรศัพท์มาอ้างว่า เป็นเจ้าหน้าที่จากกองบริหารเบิกจ่ายเงินเดือน ค่าจ้าง บำเหน็จ บำนาญ กระทรวงการคลัง มาบอกว่า กลุ่มข้าราชการเกษียณห้ามมีเงินในบัญชีเกิน 2 ล้านบาท
ดังนั้น ต้องเตรียมสมุดบัญชี บัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน ให้ธนาคารทำเรื่องเอาเงินออกจากบัญชี โดยอดีตข้าราชการครูท่านนี้ ยอมรับว่า ที่เชื่อเพราะอีกฝ่ายมีการโชว์บัตรเจ้าหน้าที่ให้ดู พูดจาฉะฉาน แถมยังบอกอีกด้วยว่า จะได้เงินเพิ่มอีก 2 หมื่นบาท ถ้าเหลือเงินในบัญชีไม่เกิน 2 ล้าน
ต่อมา ผู้เสียหายเดินทางไปที่ธนาคารเพื่อถอนเงินนำมารวมกันในบัญชีหนึ่ง ให้ยอดรวมมันถึง 2 ล้านบาท เมื่อรวมเสร็จ กลับมาถึงบ้าน ก็มีคนวิดีโอคอลมาหา บอกให้ทำหน้านิ่ง ๆ คล้ายกับสแกนอะไรบางอย่าง ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงจึงสำเร็จ พอเสร็จสิ้นทางมิจฉาชีพก็แนะนำให้ถอนเงินรวมเป็นก้อนมาอีก 2 ล้านบาท ดังนั้น เหยื่อจึงไปที่ธนาคารอีกครั้ง ครั้งนี้เจ้าหน้าที่ธนาคารแจ้งว่า เงิน 2 ล้านบาทเพิ่งออกจากบัญชีไป
ทำให้เธอตกใจมาก จึงติดต่อลูกชาย ทำให้รู้ว่าเป็นมิจฉาชีพ ที่ผ่านมาถูกหลอก ประเด็นสำคัญ คือ มิจฉาชีพรู้ข้อมูลส่วนตัวเธอได้อย่างไร ทั้งจำนวนบัญชี จำนวนเงิน เรื่องเงินคงได้รับคืนกลับมายากแล้ว ทั้งที่ไม่มีแอปฯ ธนาคาร แต่ไม่รู้เหมือนกันว่าเงินออกไปได้อย่างไร คาดว่า น่าจะออกไปในช่วงสแกนหน้า ทั้งที่ไม่มีแอปฯ ธนาคาร แต่ไม่รู้เหมือนกันว่าเงินออกไปได้อย่างไร คาดว่า น่าจะออกไปในช่วงสแกนหน้า
อย่างไรก็ตาม เฟซบุ๊ก กองบริหารการเบิกจ่ายเงินเดือน ค่าจ้าง บำเหน็จบำนาญ มีการโพสต์ระบุเอาไว้คร่าว ๆ ว่า ทางหน่วยงานไม่มีนโยบายให้เจ้าหน้าที่โทรศัพท์ติดต่อไปยังบุคคลอื่นโดยตรง การแจ้งข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ จะดำเนินการผ่านส่วนราชการเท่านั้น นอกจากนี้ ทางหน่วยงานไม่มีไลน์ เว็บไซต์ ที่ให้คนสามารถเพิ่มเพื่อนหรือสามารถสนทนาได้ ไม่มีการส่งลิงก์ดาวน์โหลดใด ๆ ดังนั้นจึงอยากให้ระวังมิจฉาชีพด้วย
ขอบคุณข้อมูล เรื่องเล่าเช้านี้
